สมมติว่าวันปีใหม่

“สมมติว่า วันปีใหม่”
เคยเขียนไว้ในนิตยสาร ฅนคอเดียวกัน เมื่อปีใหม่ 2553 ครับ ค้นไปเจอเข้า เลยเอาเรื่องเก่า มาสวัสดีกันใหม่ :]

สมมตินะครับสมมติ สมมติว่า ‘วันขึ้นปีใหม่’
พระท่านสอนว่า ทุกอย่างบนโลกนี้ล้วนเป็นเรื่องสมมติ
หล่อ สวย รวย จน ลาภ ยศ หรือแม้แต่ วันเวลา ล้วนเป็นสิ่งที่มนุษย์ติ๊ต่างขึ้นมาทั้งนั้น
อย่างเทศกาลครบรอบ 1 ปี ที่เราเพิ่งจะ แฮปปี้นิวเยียร์ กันไปหมาดๆ นี้ ก็มาจากการสมมติของคนโบราณ ที่คำนวณระยะเวลาที่โลกเล่นอีมอญซ่อนผ้า เดินทางวนรอบดวงอาทิตย์ครบ 1 รอบ มาแทนค่า สมมติว่าเป็นเวลา 1 ปี…ก่อให้เกิดการสมมติ -ฤดูกาล เดือน วัน ชั่วโมง นาที วินาที-ตามมาอีกมากมาย จนโลกมีระบบและระเบียบมากขึ้นจากการสมมติ…
อีกกุศโลบายหนึ่งที่มนุษย์แต่งตั้ง ‘วันขึ้นปีใหม่’ ขึ้นมาก็เพื่อใช้เป็นจุดเริ่มต้นของคนที่ต้องการชีวิตใหม่ หลังจากที่พ่ายแพ้ในปีที่ผ่านมา มาถึงปีใหม่นี้ จะขอเข้าประจำที่ รอฟังเสียงปืนเพื่อออกสตาร์ทสู่ลู่วิ่งชีวิตอีกครั้ง เป็นวาระอันดีที่จะ ‘เลิก’ และ ‘เริ่ม’ อะไรหลายๆ อย่างที่เคยรับปากกับตัวเองและคนรอบข้างเอาไว้
จะว่าไปแล้ว มนุษย์เราน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทเดียวที่มี ‘เทศกาลปีใหม่’
แม้จะอยู่บนโลกเดียวกันแท้ๆ แต่ผมก็ไม่เคยเห็น ลิงจัดปาร์ตี้เคาท์ดาวน์ และก็ไม่เคยได้รับ ส.ค.ส.จากแมวตัวไหนเลยสักครั้ง
ดังนั้นไม่ว่าปีใหม่จะเวียนมาสักกี่รอบ ลิงและแมวทั้งหลายก็ไม่เคยรู้สึกรู้สา หรือคิดจะปรับปรุงตัว ลิงเคยซนอย่างไรก็ยังก่อกวนทำลายข้าวของอยู่อย่างนั้น แมวเคยอึตรงไหน ก็ยังคงแอบเข้าไปอึส่งกลิ่นเหม็นแก่เจ้าของบ้านอยู่อย่างนั้นไม่ยอมเปลี่ยนแปลง…
นี่จึงเป็นข้อดีของมนุษย์ ที่มีการสมมติ ‘วันเริ่มต้นของการปรับปรุงตัว’ ขึ้น ซึ่งจะหวนกลับมาทุกๆ 365 วัน…มนุษย์จึงเป็นสัตว์ที่มีสิทธิแก้ตัวใหม่เสมอ ตราบใดที่โลกยังไม่หยุดหมุนรอบดวงตะวัน
ฉะนั้นขึ้นปีใหม่นี้ เคยสัญญาอะไรกับใครเอาไว้ก็รีบทำนะครับ หากยังมัวผลัดปีประกันพรุ่งอยู่ จะปีใหม่กี่ทีกี่หนก็ไร้ความหมาย อยู่กับชีวิตแบบเดิมๆ เหมือนลิงเหมือนแมวไม่รู้ด้วย :]
สวัสดีปีใหม่ครับ…

No comments yet

ใส่ความเห็น